วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

Tense


1. Present Simple Tense  ใช้เพื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน  
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + V1 
          ตัวอย่างประโยค:  
              I study at Harvard University.  ฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 

 2. Past Simple Tense  ใช้เพื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้นในอดีต และตอนนี้ทุกอย่างก็ได้จบลงแล้ว 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + V2  
          ตัวอย่างประโยค: 
              I lived in Germany. ฉันเคยอยู่ที่ประเทศเยอรมนี 

 3. Future Simple Tense ใช้เพื่อบอกความตั้งใจ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + will, shall + V1 
          ตัวอย่างประโยค:     
              I will go to Japan next month. ฉันจะไปญี่ปุ่นเดือนหน้า 

 4. Present Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ ณ ขณะที่พูด และใช้บอกการกระทำที่ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้ (ปีนี้, เดือนนี้) หรือบอกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็ได้ 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + is, am, are + V ing 
          ตัวอย่างประโยค:     
              I am going to school. ฉันกำลังจะไปโรงเรียน 

 5. Past Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต หรือบอกเหตุการณ์หนึ่งในอดีตที่กำลังดำเนินอยู่ ก่อนที่อีกเหตุการณ์จะเกิดขึ้น 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + was, were + V ing 
          ตัวอย่างประโยค: 
              I was working all day yesterday. ฉันยุ่งทั้งวันเลยเมื่อวานนี้ 


6. Future Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต และใช้กับเหตุการณ์หนึ่งในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่อีกหนึ่งเหตุการณ์จะเกิดตามมา 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + will be + V ing 
          ตัวอย่างประโยค: 
              I will be studying in tomorrow morning. พรุ่งนี้ตอนเช้า ผมคงจะกำลังเรียนอยู่ 

 7. Present Perfect Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และจะใช้ since, for ร่วมด้วยเสมอ หรือบอกเล่าถึงสิ่งที่เพิ่งจะจบลงหมาด ๆ 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + have,has +V3 
          ตัวอย่างประโยค:     
              I have worked in Japan since 2010.  ฉันทำงานที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2010 

 8. Past Perfect Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แน่ชัด หรือใช้เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต โดยจะใช้ Past Perfect Tense กับเหตุการณ์ที่เกิดก่อนเสมอ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลังใช้ Past Simple Tense 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + had +V3 
          ตัวอย่างประโยค: 
              Two students had gone before the teacher came to the room.  นักเรียนสองคนออกไปจากห้องแล้ว ก่อนที่ครูจะเข้ามา 

 9. Future Perfect Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่คาดว่าจะสิ้นสุดลงในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต หรือใช้กับเหตุการณ์หนึ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ก่อนที่อีกเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้นตามมา
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + will + have + V3 
          ตัวอย่างประโยค:     
              Apple will have launched its new iPhone by 2012. แอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ภายในปี 2012 

 10. Present Perfect Continuous Tense  ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และเน้นว่าจะทำต่อไปในอนาคตด้วย เรียกว่ามีหลักการใช้เหมือนกับ Present Perfect Tense เพียงแต่เน้นถึงความต่อเนื่องและเน้นว่าจะทำต่อไปเท่านั้นเอง 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + have/has been + V ing 
          ตัวอย่างประโยค: 
              I have been working in Japan since 2010. ฉันทำงานที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2010 
             
 11. Past Perfect Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต และได้สิ้นสุดลงแล้ว เรียกว่ามีหลักการใช้เหมือนกับ Past Perfect Tense เพียงแต่เน้นถึงความต่อเนื่องชัดเจนขึ้น 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + had been + V ing 
          ตัวอย่างประโยค: 
              I had been painting the wall before the dog scratched it.  ฉันทาสีกำแพงก่อนที่เจ้าหมาจะมาขีดข่วนมัน 

12. Future Perfect Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต และก็จะดำเนินต่อไปอีกหลังจากนั้น หรือใช้เหมือนกับ Future Perfect Tense แต่เน้นความต่อเนื่องของการกระทำหนึ่งในอนาคต 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + will/shall + have been + V ing 
          ตัวอย่างประโยค          
        By the next year, I will have been working for 10 years. ผมจะทำงานครบ 10 ปีในปีหน้านี้